Tuesday, February 14, 2017

















         องุ่นดำ


องุ่น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Vitis vinifera Linn นับว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมสำหรับใครหลายๆ คนเลยทีเดียว โดยเฉพาะเสน่ห์ของรสชาติที่มาพร้อมกับความเปรี้ยวอมหวานที่โดนใจเป็นอย่างยิ่ง และนอกจากในรูปแบบการบริโภคเนื้อองุ่นแล้ว ใบองุ่นก็ยังนิยมนำมาสกัดและเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางอย่างหลากหลาย ร่วมถึงผลิตภันฑ์บำรุงผิวต่างๆ 
            ในองุ่นมีสารอาหารมากมายที่ร่างกายต้องการ และมีส่วนในการสร้างภูมิคุ้มกันรักษาป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างมากมาย อาทิ
ช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อการจับตัวของก้อนเลือด และลดโคเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล (ไขมันไม่ดี) เหตุนี้จึงช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบเลือดและหัวใจได้ดีเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยลดริ้วรอยและทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น อีกด้วย ทั้งนี้องุ่นที่เราพบเห็นและผู้คนนิยมบริโภคกันทั่วไป จะแบ่งเป็น 3 ชนิดใหญ่ ได้แก่ 1). องุ่นแดง  2).องุ่นดำ  3). องุ่นเขียว
โดยในองุ่นจะประกอบด้วยสารอาหารหลักๆ คือ ฟรุกโตส กาแลกโตส กลูโคส ซึ่งเหล่านี้เป็นน้ำตาลที่ร่างกายต้องการใช้เพื่อสร้างพลังงาน เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกาย และกระตุ้นให้ตับทำหน้าที่ฟอกเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้องุ่นยังอุดมไปด้วยวิตามิน  B1, B2, A, C และเกรือแร่ เราจึงเห็นเครื่องดื่มบำรุงกำลังบางชนิด นำองุ่นมาเป็นส่วนผสมร่วม เพราะร่างกายของเราสามารถดูดซึมน้ำตาลจากองุ่นได้ง่ายนั่นเอง 
            
จากการ วิจัยของนักวิทยาศาสตร์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศอเมริกา พบว่า ในองุ่นมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าPolyphenols ซึ่งส่วนใหญ่เราจะสามารถบริโภคได้ในรูปของน้ำองุ่นหรือไวน์แดง สาร Polyphenols นี้มีส่วนช่วยให้คนเรา มีอายุสมองที่ยาวนานและแข็งแรงขึ้น ทำให้สามารถทำงานและจดจำสิ่งต่างๆ ได้เป็นอย่างดีถึงแม้จะอายุมากแล้วก็ตาม การบริโภคองุ่นทุกวันจึงมีส่วนทำให้สมองปลอดโปร่ง และรู้สึกสดชื่นขึ้นได้

ประโยชน์สรรพคุณขององุ่นดำ
องุ่นดำ เป็นองุ่นที่มีกระแสมาแรงในช่วงนี้ ผู้ที่มีความต้องการที่จะลดพุง หรือลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย องุ่นดำสมารถช่วยได้ ทั้งนี้เพราะองุ่นดำเป็นผลไม้ ที่มีไฟเบอร์สูงช่วยในเรื่องการเผาพลานไขมันได้ดี และช่วยลดความอยากรับประทานอาหารได้เนื่องจากมีใยอาหารสูง ความหวานในองุ่นดำ เป็นความหวานที่ได้จากฟรุกโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลผลไม้ที่ให้พลังงานสูง ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบของคาร์โบไฮเดรต อีกทั้งองุ่นเป็นผลไม้ที่ไม่มีไขมัน ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบความหวาน การบริโภคองุ่นจึงทิ้งความกังวลเรื่องความอ้วนไปได้เลย นอกจากนี้ในองุ่นดำยัง มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidantช่วยขับล้างสารพิษในลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ปกติ ปัจจุบันองุ่นดำยังนับว่ามีราคาสูงเมื่อเทียบกับองุ่นชนิดอื่นๆ

ประโยชน์สรรพคุณขององุ่นเขียว 
องุ่นเขียว นับเป็นองุ่นที่หาบริโภคได้ง่ายที่สุด ช่วยลดภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็ง และมีประโยชน์อย่างมากกับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็ง ในองุ่นเขียวนอกจากจะมีสารอาหารหลักที่ร่างกายต้องการมากมาย อาทิเช่น วิตามิน A, C, B1, B2แล้ว ยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์(antioxidant) ที่ประกอบด้วย คาเตชิน (Catechin) และเทอร์ซอทิลบีน (Ptersotilbene) มีสรรพคุณช่วยยับยั่งการเจริญของสาร oxident ที่เป็นสารก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ อันเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ อาทิ มะเร็งในลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และโรคมะเร็งอีกหลายชนิดที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระในร่างกาย ทั้งนี้องุ่นเขียวยังช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งขึ้นได้

ประโยชน์สรรพคุณขององุ่นแดง
องุ่นแดง ประกอบด้วยสารอาหารป้องกันโรคและช่วยเสริมสร้างความงามให้กับผิวพรรณ นั่นเพราะต้องอาศัยความพิถีพิถันเป็นอย่างมากในการปลูก จึงทำให้องุ่นแดงมีราคาแพงมากที่สุดในเหล่าบรรดาองุ่นชนิดอื่น องุ่นแดงอุดมไปด้วยวิตามิน A,B1, B2 เกลือแร่ ธาตุเหล็ก น้ำตาลฟรุกโตส กาแลกโตส ซูโครส ที่ร่างกายสามรถดูดซึมได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้น้ำตาลเปลี่ยนมาอยู่ในรูปของคาร์โบไฮเดรต เหตุนี้จึงทำให้ผู้บริโภคหายกังวลเรื่องความอ้วนไปได้เลย
องุ่นแดงมีสรรพคุณในการป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างมากมาย ในองุ่นแดงมีสารสำคัญอย่าง ฟลาโวนอยด์ (flavonoid) เป็นสารที่มีส่วนในการยับยั้งและต้านอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ได้เช่นเดียวกับองุ่นชนิดอื่นๆ และสารแอนโธไซยานิน ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนประสาท ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้โลหิตหมุนเวียนได้ดีขึ้น จึงช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อมชมพูดูเป็นธรรมชาติ และในการรับประทานองุ่นแดง ยังช่วยลดคอเลสเตอรอล (Cholesterol) จึงมีส่วนช่วยลดภาวะการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย

No comments:

Post a Comment